ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวกว่า 100 จุด โดยตลาดหุ้นวอลล์สตรีทฟื้นตัวขึ้น หลังร่วงลงอย่างหนักในวันศุกร์
ณ เวลา 20.34 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 29,407.58 จุด บวก 110.79 จุด หรือ 0.38%
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 600 จุดในวันศุกร์ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงเกินคาด ทำให้นักลงทุนวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปิดทำการในวันนี้ เนื่องในวันโคลัมบัส แต่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังคงเปิดทำการตามปกติ
คาดว่าการซื้อขายในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะมีปริมาณเบาบางในวันนี้ เนื่องจากเทรดเดอร์หลายรายอยู่นอกตลาด ขณะที่ตลาดพันธบัตรปิดทำการ
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เตือนว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะมีการปรับตัวที่ผันผวนในวันนี้ โดยมีสาเหตุจากวอลุ่มซื้อขายในระดับต่ำ ซึ่งจะถูกผลักดันจากปัจจัยในตลาดได้โดยง่าย ขณะที่ตลาดยังคงถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งคาดการณ์การชะลอตัวของผลประกอบการในไตรมาส 3 และความวิตกเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ข้อมูลจาก Refinitiv data ระบุว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 มีผลประกอบการเพิ่มขึ้นเพียง 4.1% ในไตรมาส 3 โดยลดลงจากระดับ 11.1% ที่มีการคาดการณ์ในช่วงต้นเดือนก.ค.
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของเฟดประจำเดือนก.ย.ในวันที่ 12 ต.ค. และตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 13 ต.ค. เพื่อหาสิ่งบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด