ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันพุธ (12 ต.ค.) เป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นและการแข็งค่าของเงินปอนด์ถ่วงตลาดลง นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนในอังกฤษส่งผลกดดันตลาดด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,826.15 จุด ลดลง 59.08 จุด หรือ -0.86%
เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 1.1% หลังธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) แจ้งต่อบรรดากองทุนบำเหน็จบำนาญว่า กองทุนมีเวลา 3 วันในการแก้ปัญหาสภาพคล่องก่อน BoE ยุติการซื้อพันธบัตรฉุกเฉิน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 20 และ 30 ปีของรัฐบาลอังกฤษแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2545 ที่ 5.195% และ 5.1% ตามลำดับ โดยปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 5% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ BoE เริ่มซื้อพันธบัตรเมื่อวันที่ 28 ก.ย.
หุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อาทิ หุ้นกลุ่มธนาคาร, กลุ่มก่อสร้างบ้าน และกลุ่มประกันปรับตัวลงต่อ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษยังคงเพิ่มขึ้น
ดัชนีหุ้นกลุ่มสร้างบ้าน ร่วงลง 4.4% โดยหุ้นของบริษัทแบร์เรตต์ ดีเวลลอปเมนต์ ร่วง 5.1% หลังบริษัทเปิดเผยแนวโน้มธุรกิจที่มีความไม่แน่นอนมากขึ้น เนื่องจากผู้ซื้อบ้านเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยจำนองที่สูงขึ้น และวิกฤตค่าครองชีพที่รุนแรงขึ้น
ตลาดยังถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยข้อมูลบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจอังกฤษหดตัวลง 0.3% ในเดือนส.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการผลิตที่อ่อนแอ และการซ่อมบำรุงที่บ่อน้ำมันและก๊าซในทะเลเหนือ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกว่า การเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนก.ย.นั้นบ่งชี้ว่า ภาวะเงินเฟ้อจะยังคงทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงต่อไป