ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (17 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวอังกฤษยกเลิกแผนการคลังที่ทำให้ตลาดร่วงลงก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 398.48 จุด เพิ่มขึ้น 7.17 หรือ +1.83%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,040.66 จุด เพิ่มขึ้น 108.74 จุด หรือ +1.83%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,649.03 จุด เพิ่มขึ้น 211.22 จุด หรือ +1.70% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,920.24 จุด เพิ่มขึ้น 61.45 จุด หรือ +0.90%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนหลังจากนายเจเรมี ฮันท์ รมว.คลังคนใหม่ของอังกฤษได้ยกเลิกมาตรการปรับลดภาษี 4.5 หมื่นล้านปอนด์ของนายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ซึ่งได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินในช่วงที่ผ่านมา และทำให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ต้องเข้าแทรกแซงตลาด
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนร่วงลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอังกฤษ
หุ้นทุกกลุ่มปรับตัวขึ้น โดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ พุ่งเกือบ 4%, หุ้นกลุ่มเดินทางและนันทนาการ พุ่งขึ้น 3.3% และหุ้นกลุ่มธนาคาร พุ่งขึ้น 2.3%
ขณะนี้นักลงทุนหันไปให้ความสนใจกับการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3/2565 ของบริษัทจดทะเบียน เพื่อดูว่าธุรกิจต่าง ๆ จะรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างไร รวมถึงแนวโน้มการดำเนินธุรกิจท่ามกลางความวิตกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
หุ้นรายตัวที่ปรับตัวขึ้น อาทิ หุ้นเครดิตสวิส พุ่งขึ้น 2.6% หลังสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เครดิตสวิสได้ติดต่อกับกองทุนความมั่งคั่งของตะวันออกกลางอย่างน้อยหนึ่งแห่งเพื่อการอัดฉีดเงินทุน
หุ้นไอทีวีของอังกฤษ พุ่งขึ้น 9.1% หลังไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า บริษัทกำลังสำรวจทางเลือกในการขายธุรกิจไอทีวี สตูดิโอส์