ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (18 ต.ค.) เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยยังคงได้แรงหนุนจากการเปลี่ยนแปลงแผนการคลังของอังกฤษ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่าง ๆ เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจ และบางบริษัทเปิดเผยผลกำไรและรายได้ที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 399.84 จุด เพิ่มขึ้น 1.36 จุด หรือ +0.34%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,067.00 จุด เพิ่มขึ้น 26.34 จุด หรือ +0.44%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,765.61 จุด เพิ่มขึ้น 116.58 จุด หรือ +0.92% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,936.74 จุด เพิ่มขึ้น 16.50 จุด หรือ +0.24%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นต่อ โดยยังคงได้แรงหนุนจากการที่อังกฤษยกเลิกแผนปรับลดภาษีวงเงิน 4.5 หมื่นล้านปอนด์ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินในช่วงที่ผ่านมา และกดดันให้ธนาคารกลางอังกฤษต้องเข้าแทรกแซงตลาด
หุ้นกลุ่มก่อสร้างและวัสดุ และกลุ่มรถยนต์ ปรับตัวขึ้น 1.9% และ 1.7% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นบริษัทผลิตชิป อาทิ เอเอสเอ็มแอล โฮลดิงส์ และนอร์ดิก เซมิคอนดักเตอร์ พุ่งขึ้น 0.8-5.9%
การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นพับลิซิส กรุ๊ปของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณารายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก เพิ่มขึ้น 2.3% หลังบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการทั้งปีเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้
หุ้นอะแวนซา แบงก์ของสวีเดน พุ่งขึ้น 12% หลังเปิดเผยผลกำไรจากการดำเนินงานและรายได้ที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3/2565