ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (20 ต.ค.) หลังจากนางลิซ ทรัสส์ เปิดเผยว่า เธอจะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ซึ่งจะทำให้แผนการด้านเศรษฐกิจของเธอต้องยุติลงด้วย หลังจากที่สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 398.77 จุด เพิ่มขึ้น 1.04 จุด หรือ +0.26%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,086.90 จุด เพิ่มขึ้น 46.18 จุด หรือ +0.76%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,767.41 จุด เพิ่มขึ้น 26.00 จุด หรือ +0.20% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,943.91 จุด เพิ่มขึ้น 18.92 จุด หรือ +0.27%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น หลังปรับตัวขึ้นลงผันผวนระหว่างวันหลังจากที่นางทรัสส์ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ขณะที่เงินปอนด์และตลาดหุ้นอังกฤษปรับตัวขึ้นขานรับข่าวดังกล่าว โดยการเลือกตั้งผู้นำคนใหม่จะมีขึ้นภายในสัปดาห์หน้า
นางทรัสส์เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเธอต้องสั่งปลดนายควาซี ควาร์เต็ง รัฐมนตรีคลังออกจากตำแหน่ง และยกเลิกแผนการด้านเศรษฐกิจทั้งหมดของเธอ หลังจากที่แผนปรับลดภาษีครั้งใหญ่โดยไม่มีเงินทุนรองรับนั้น ได้ส่งผลให้เงินปอนด์และราคาพันธบัตรของอังกฤษดิ่งลงอย่างหนัก จนธนาคารกลางอังกฤษต้องเข้ามาแทรกแซง
หุ้นกลุ่มต่าง ๆ ส่วนใหญ่มากกว่าครึ่งปรับตัวขึ้น โดยกลุ่มเทคโนโลยี พุ่งขึ้น 1.94% ขณะที่กลุ่มเทเลคอมร่วงลงมากที่สุด 2.5% โดยหุ้นโนเกีย และหุ้นอีริคสัน ร่วงลง 7.6% และ 14.8% ตามลำดับ หลังรายงานผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาด โดยได้รับผลกระทบจากปัญหาการฟ้องร้องเรื่องสิทธิบัตรซึ่งส่งผลกดดันผลกำไรและบดบังอุปสงค์ที่แข็งแกร่งสำหรับอุปกรณ์ 5G
การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนช่วยหนุนตลาด โดยหุ้นธนาคารนอร์เดียของฟินแลนด์ปรับตัวขึ้น 0.35% หลังเปิดเผยผลกำไรดีกว่าคาด และหุ้นแอร์เมส พุ่ง 1.6% หลังเปิดเผยยอดขายขยายตัวอย่างมาก
หุ้นสวีดิช แมตช์ เอบี ซึ่งเป็นบริษัทผลิตบุหรี่ของสวีเดน พุ่ง 1.9% หลังบริษัทฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชันแนล ปรับเพิ่มข้อเสนอซื้อหุ้นสวีดิช แมตช์