ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพฤหัสบดี (20 ต.ค.) หลังนางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษเปิดเผยว่า เธอจะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ซึ่งบรรดานักลงทุนขานรับข่าวดังกล่าวหลังจากที่แผนปรับลดภาษีลงอย่างมากของนางทรัสส์ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินในช่วงที่ผ่านมา
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,943.91 จุด เพิ่มขึ้น 18.92 จุด หรือ +0.27%
นางทรัสส์เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเธอต้องสั่งปลดนายควาซี ควาร์เต็ง รัฐมนตรีคลังออกจากตำแหน่ง และยกเลิกแผนการด้านเศรษฐกิจทั้งหมดของเธอ หลังจากที่แผนปรับลดภาษีครั้งใหญ่โดยไม่มีเงินทุนรองรับนั้น ได้ส่งผลให้เงินปอนด์และราคาพันธบัตรของอังกฤษดิ่งลงอย่างหนัก จนธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ต้องเข้ามาแทรกแซง
สำหรับการเลือกตั้งผู้นำคนใหม่ของอังกฤษจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้า
สื่อรายงานว่า นายริชิ ซูแนก อดีตรมว.คลังอังกฤษ, นายเพนนี มอร์ดอนต์ และนายบอริส จอห์นสัน จะลงแข่งขันชิงตำแหน่งนายกฯอังกฤษแทนนางทรัสส์
หุ้นกลุ่มสร้างบ้าน, กลุ่มค้าปลีก, กลุ่มทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ปรับตัวขึ้นราว 0.9-2.3%สำหรับหุ้นรายตัวที่ปรับตัวขึ้นได้แก่ หุ้นจูปิเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุน พุ่ง 10.1% หลังรายงานเงินทุนไหลออกสุทธิลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันจนถึงเดือนก.ย
แต่การปรับตัวขึ้นของตลาดได้ถูกจำกัดจากการที่เงินปอนด์พุ่งขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มส่งออกที่มีรายได้เป็นดอลลาร์ อาทิ แอสตร้าเซนเนก้า และดิอาจีโอ
ตลาดจะจับตาการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษในสัปดาห์หน้า ซึ่งบรรดาเทรดเดอร์คาดว่ามีโอกาส 84% ที่ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%