ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลดลงเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเป็นผลจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่รอคอยการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อจากหลายประเทศ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 26,951.59 จุด ลดลง 55.37 จุด หรือ -0.21%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 16,252.16 จุด ลดลง 28.06 จุด หรือ -0.17% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,050.18 จุด เพิ่มขึ้น 15.13 จุด หรือ +0.50%
หุ้นจีนปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากรายงานข่าวเมื่อวานนี้ที่ว่า จีนอาจจะลดเวลาการกักตัวสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจีน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวานนี้ว่า เจ้าหน้าที่จีนกำลังพิจารณาลดระยะเวลาการกักตัวในโรงแรมตามข้อกำหนดการควบคุมโควิด-19 ลงเหลือ 2 วัน และจากนั้นจะอนุญาตให้กักตัวต่อในบ้านพักเป็นเวลา 5 วัน จากปัจจุบันที่จีนกำหนดว่าผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจะต้องกักตัวเป็นเวลาทั้งหมด 10 วัน โดยแบ่งเป็นกักตัวในโรงแรม 7 วัน และกักตัวที่บ้านพัก 3 วัน ซึ่งการกักตัวที่บ้านพักจะยังคงอยู่ภายใต้การติดตามจากเจ้าหน้าที่และจะต้องเข้ารับการตรวจเชื้อตามกำหนด
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น 3% ในเดือนก.ย.เทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ฮ่องกงและมาเลเซียมีกำหนดรายงานตัวเลขเงินเฟ้อในวันนี้
หุ้นสหรัฐปรับตัวลงในวันพฤหัสบดี (20 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนประเมินผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่เพิ่มสูงขึ้น โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 90.22 จุด หรือ 0.30% แตะ 30,333.59, ดัชนี S&P 500 ลบ 0.8% แตะ 3,665.78 และดัชนี Nasdaq Composite ร่วง 0.61% ปิดที่ 10,614.84
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐแตะระดับ 4.239% ในวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551