ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลดช่วงลบ หลังเฟดกังวลขึ้นดอกเบี้ยแรงเกินไป

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลดช่วงลบในวันนี้ หลังสื่อรายงานว่า เจ้าหน้าที่บางรายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในขณะนี้

ณ เวลา 20.28 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 18 จุด หรือ 0.06% สู่ระดับ 30,335 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดิ่งลงกว่า 200 จุดในช่วงแรก ขณะที่นักลงทุนกังวลต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ฟื้นตัวขึ้น หลังหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า เจ้าหน้าที่เฟดบางรายแสดงความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในขณะนี้ รวมทั้งวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงในการคุมเข้มนโยบายการเงินมากเกินไป

รายงานดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าววานนี้สนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นายฮาร์เกอร์กล่าวว่า การที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมาแทบไม่สามารถสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ ดังนั้นเฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

"เราต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากเรารู้สึกผิดหวังต่อการขาดความคืบหน้าในการสกัดเงินเฟ้อ ผมคาดว่าเราต้องปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าระดับ 4% ภายในปลายปีนี้" นายฮาร์เกอร์กล่าว

นายฮาร์เกอร์ระบุว่า เฟดจะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า และจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง และหลังจากนั้น เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจ

นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนพ.ย.และธ.ค. ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% จำนวน 5 ครั้งติดต่อกัน หลังจากปรับขึ้น 0.75% ในเดือนมิ.ย.,ก.ค.และก.ย. ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดจะพุ่งแตะระดับ 4.50-4.75% ในสิ้นปีนี้