ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทะยานกว่า 500 จุด โดยนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เฟดเริ่มแสดงความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ณ เวลา 00.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 30,923.26 จุด บวก 589.67 จุด หรือ 1.94% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดตัว 1.71% และดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้น 1.43%
การซื้อขายในตลาดได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนลดคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนธ.ค. หลังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เฟดเริ่มแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 48.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. ลดลงจากเดิมที่ให้น้ำหนัก 75%
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 95% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย.
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า เจ้าหน้าที่เฟดบางรายแสดงความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในขณะนี้ รวมทั้งวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงในการคุมเข้มนโยบายการเงินมากเกินไป
รายงานดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าววานนี้สนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐในสัปดาห์หน้า
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.9% ในไตรมาส 3
เฟดสาขาแอตแลนตาจะรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ครั้งใหม่ในวันที่ 26 ต.ค. ก่อนที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 3 ในวันที่ 27 ต.ค.
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1 และ 0.6% ในไตรมาส 2 ซึ่งการที่เศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค