ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันศุกร์ (21 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกว่าธนาคารกลางต่าง ๆ ทั่วโลกจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินเชิงรุกเพื่อสกัดอัตราเงินเฟ้อ ขณะที่การเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนได้เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 396.29 จุด ลดลง 2.48 จุด หรือ -0.62% แต่ยังคงปิดบวกเกือบ 1.3% ในรอบสัปดาห์นี้
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,035.39 จุด ลดลง 51.51 จุด หรือ -0.85% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,730.90 จุด ลดลง 36.51 จุด หรือ -0.29% ส่วนดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,969.73 จุด เพิ่มขึ้น 25.82 จุด หรือ +0.37%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงในวันศุกร์ โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน หลังบริษัทสแนป อิงค์ของสหรัฐเตือนเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4 เนื่องจากรายได้จากการโฆษณาจะได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อในระดับสูง
หุ้นอาดิดาส ร่วงลง 9.5% หลังปรับลดแนวโน้มผลประกอบการทั้งปีนี้ โดยระบุถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอลง ขณะที่หุ้นของบริษัทพูม่า ร่วงลง 7.3%
หุ้นลอรีอัลของฝรั่งเศส ร่วงลง 5.8% หลังเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้
หุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลง 3.2% หลังข้อมูลบ่งชี้ว่า ผู้บริโภคอังกฤษลดการใช้จ่ายลงมากเกินคาดในเดือนก.ย.
หุ้นวิวองดิ ร่วงลง 2.9% หลังเปิดเผยถึงการชะลอตัวของธุรกิจเพย์ทีวีของบริษัท
แต่หุ้นเรโนลต์ ปรับตัวขึ้น 0.1% สวนทางตลาด ขณะที่หุ้นรถยนต์อื่น ๆ ปรับตัวลง หลังเรโนลต์ยืนยันแนวโน้มผลประกอบการทั้งปี และเปิดเผยยอดขายรายไตรมาสเพิ่มขึ้น