ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (21 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งปรับตัวขึ้น และยังได้แรงหนุนหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณที่จะชะลออัตราการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,969.73 จุด เพิ่มขึ้น 25.82 จุด หรือ +0.37% และปรับตัวขึ้นมากกว่า 1% ในรอบสัปดาห์นี้
ตลาดหุ้นลอนดอนยังคงปรับตัวขึ้นขานรับนางลิซ ทรัสส์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ และส่งผลให้มีการยกเลิกแผนเศรษฐกิจของนางทรัสส์ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดในช่วงที่ผ่านมา
การเลือกตั้งผู้นำคนใหม่จะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้นได้แก่ นายริชิ ซูแนก อดีตรมว.คลัง, นางเพนนี มอร์ดอนท์ ผู้นำสภาสามัญชน และนายบอริส จอห์นสัน อดีตนายกฯอังกฤษ
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ปรับตัวขึ้น 0.9% และหุ้นกลุ่มพลังงาน บวก 1.6% จากความหวังที่ว่าอุปสงค์จากจีนจะเพิ่มขึ้น และกลุ่มโอเปกพลัสจะปรับลดการผลิตน้ำมัน
หุ้นรายตัวที่บวกขึ้นได้แก่ หุ้นเดลิเวอรู พุ่งขึ้น 3.5% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการ และเชื่อมั่นว่าบริษัทจะสามารถปรับตัวรับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลงได้
แต่หุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลง 2.9% หลังการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า ผู้บริโภคอังกฤษลดการใช้จ่ายลงมากเกินคาดในเดือนก.ย. โดยได้รับผลกระทบจากราคาที่เพิ่มขึ้น