ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 200 จุด บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากที่พุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 20.18 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 202 จุด หรือ 0.65% สู่ระดับ 31,325 จุด
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 4.9% ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้น 4.7% และ 5.2% ตามลำดับ
ทั้งนี้ นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เฟดเริ่มแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้นักลงทุนลดคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนธ.ค.
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีในสัปดาห์นี้ ได้แก่ แอปเปิล อัลฟาเบท แอมะซอน และไมโครซอฟท์ รวมทั้งการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ
ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐในวันพฤหัสบดี
เฟดสาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.9% ในไตรมาส 3
เฟดสาขาแอตแลนตาจะรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ครั้งใหม่ในวันที่ 26 ต.ค. ก่อนที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 3 ในวันที่ 27 ต.ค.
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1 และ 0.6% ในไตรมาส 2 ซึ่งการที่เศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค