ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพฤหัสบดี (27 ต.ค.) แต่ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดของวัน หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด และส่งสัญญาณว่า อัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะชะลอลงในระยะต่อไป
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 410.19 จุด ลดลง 0.12 จุด หรือ -0.03% หลังจากร่วงลงถึง 1.2% ก่อน ECB ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,244.03 จุด ลดลง 32.28 จุด หรือ -0.51%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,211.23 จุด เพิ่มขึ้น 15.42 จุด หรือ +0.12% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,073.69 จุด เพิ่มขึ้น 17.62 จุด หรือ +0.25%
ECB มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากขึ้น 0.75% สู่ระดับ 1.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2552 จากเดิมที่ระดับ 0.75% และเตรียมปรับลดงบดุลบัญชีที่อยู่ในระดับสูง พร้อมทั้งระบุว่า ECB มีความคืบหน้าอย่างมากในการควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังคงเผชิญแรงกดดัน โดยหุ้นเอสทีไมโครอีเล็คโทรนิคส์ ร่วงลง 7% หลังคาดการณ์ยอดขายชะลอลงในช่วงที่เหลือของปีนี้
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วง 2% หลังการผลิตทองแดงที่ลดลงทำให้ผลผลิตไตรมาส 3 ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
ส่วนหุ้นบวกสวนตลาดได้แก่ หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น 0.6% สวนทางตลาด หลังจาก ECB ปรับเงื่อนไขโครงการช่วยเหลือธนาคารต่าง ๆ ผ่านโครงการรีไฟแนนซ์ระยะยาวที่กำหนดเป้าหมาย (Targeted Longer-Term Refinancing Operations ? TLTRO) ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์มองว่าไม่ได้เข้มงวดอย่างที่วิตกกัน
แต่หุ้นเครดิตสวิส ร่วง 18.6% หลังเปิดเผยแผนการที่จะระดมทุน 4 พันล้านฟรังก์สวิส (4.05 พันล้านดอลลาร์), ปรับลดพนักงานหลายพันคน และยกเลิกการทำธุรกิจด้านวาณิชธนกิจ
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซของยุโรป บวก 3.5% หลังหุ้นเชลล์ของอังกฤษ พุ่ง 5.5% หลังเปิดเผยผลกำไร 9.45 พันล้านดอลลาร์ และประกาศแผนการที่จะปรับเพิ่มเงินปันผลภายในสิ้นปี และหุ้นโททาลเอนเนอร์ยี่ส์ของฝรั่งเศส พุ่ง 3.0% หลังเปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น