ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลบในวันนี้ ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาด และบริษัทต่าง ๆ ในภูมิภาคทยอยรายงานผลประกอบการ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,248.20 จุด ลดลง 97.04 จุด หรือ -0.35%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 15,069.69 จุด ร่วงลง 358.25 จุด หรือ -2.32% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 2,958.25 จุด ลดลง 24.65 จุด หรือ -0.83%
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ (Ultraeasy Monetary Policy) ในการประชุมวันนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด แต่สวนทางกับธนาคารกลางอื่น ๆ ทั่วโลกที่พากันใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นลงในวันนี้ (28 ต.ค.) คณะกรรมการ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นในจำนวนที่จำเป็นด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ โดยมีเป้าหมายที่จะตรึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ 0%
สายการบินจีนบางแห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงมีกำหนดรายงานผลประกอบการในวันนี้ เช่นเดียวกับบริษัทบีวายดี ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้า และบริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์ของเกาหลีใต้
เมื่อวานนี้ (27 ต.ค.) สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนปรับตัวลงในอัตราที่เร็วขึ้นในเดือนม.ค.-ก.ย. เนื่องจากผลกระทบของมาตรการควบคุมโควิด-19 และวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อกิจกรรมในภาคการผลิตของจีน
ทั้งนี้ กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีน ลดลง 2.3% แตะระดับ 6.24 ล้านล้านหยวนในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งรุนแรงกว่าในช่วงเดือนม.ค.-ส.ค.ที่ปรับตัวลง 2.1%