ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (2 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้นเพื่อรอผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งประกาศหลังปิดตลาด
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 413.39 จุด ลดลง 1.22 จุด หรือ -0.29%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,276.88 จุด ลดลง 51.37 จุด หรือ -0.81%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,256.74 จุด ลดลง 82.00 จุด หรือ -0.61% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,144.14 จุด ลดลง 42.02 จุด หรือ -0.58%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงหลังบวกติดต่อกัน 3 วันสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 สัปดาห์ โดยปรับตัวลงตามหุ้นสหรัฐ หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนต.ค. บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน และตอกย้ำการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไปอีกระยะหนึ่ง
หุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลและครัวเรือน, กลุ่มเหมืองแร่ และกลุ่มเทคโนโลยี ร่วงลงมากที่สุดราว 1.3-1.8%
ส่วนหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด หลังหุ้นโนโว นอร์ดิสก์ ปรับเพิ่มแนวโน้มผลประกอบการทั้งปี
หุ้นเมอส์ก ซึ่งเป็นบริษัทเดินเรือของเดนมาร์ก ร่วง 5.8% หลังเตือนเกี่ยวกับอุปสงค์การขนส่งที่ชะลอลง และปรับลดคาดการณ์ความต้องการตู้คอนเทนเนอร์ในปีนี้
หุ้นเดอแมนต์ บริษัทผลิตเครื่องช่วยฟังของเดนมาร์ก ร่วงลง 15.1% หลังปรับลดคาดการณ์รายได้และผลกำไรเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้