ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันศุกร์ (11 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากการที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นหลังการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของอังกฤษหดตัวลงน้อยกว่าคาด โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษ หดตัวลง 0.2% ในไตรมาส 3 น้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าอาจหดตัวลง 0.5%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,318.04 จุด ลดลง 57.30 จุด หรือ +0.78% และปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้ หลังบวกติดต่อกัน 3 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ปอนด์แข็งค่าขึ้นขานรับข้อมูล GDP ที่ดีกว่าคาด และได้ส่งผลถ่วงหุ้นกลุ่มส่งออกที่มีรายได้เป็นดอลลาร์ อาทิ แอสตร้าเซนเนก้า, แกล็กโซสมิทไคล์น และบริติช อเมริกัน โทแบคโค
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้น 0.4% และ 1.9% ตามลำดับ เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งขึ้นจากความหวังว่าอุปสงค์จะเพิ่มขึ้น หลังจากจีนซึ่งเป็นผู้ใช้โลหะและน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกนั้นได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19
หุ้นบีซลีย์ ซึ่งเป็นบริษัทประกัน ร่วงลง 7.8% หลังเตือนว่าพายุเฮอริเคนเอียนจะส่งผลกระทบต่อบริษัทราว 120 ล้านดอลลาร์