ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันพฤหัสบดี (17 พ.ย.) หลังร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ โดยตลาดถูกกดดันหลังจากรัฐบาลอังกฤษเปิดเผยแผนปรับลดการใช้จ่ายและปรับขึ้นภาษี
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,346.54 จุด ลดลง 4.65 จุด หรือ -0.06%
ตลาดปรับตัวลงหลังนายเจเรมี ฮันท์ รมว.คลังอังกฤษเปิดเผยแผนปรับลดการใช้จ่ายและปรับขึ้นภาษี พร้อมทั้งคาดว่าเศรษฐกิจของอังกฤษจะหดตัวลง 1.4% ในปีหน้า
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ถ่วงตลาดลง ตามราคาโลหะที่ปรับตัวลง และหุ้นกลุ่มพลังงานลดลง หลังนายฮันท์เปิดเผยว่า รัฐบาลอังกฤษจะปรับขึ้นภาษีลาภลอย (Windfall Tax) กับบริษัทน้ำมันและก๊าซ รวมไปถึงบริษัทผลิตไฟฟ้า
ตลาดยังคงถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของอังกฤษที่พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 41 ปีในเดือนต.ค. ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยบรรดาเทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาส 88.4% ที่ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนธ.ค.
หุ้นกลุ่มธนาคารบวกสวนตลาด เพิ่มขึ้น 1.6%