ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันจันทร์ (21 พ.ย.) โดยหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในจีนซึ่งเป็นผู้ใช้โลหะรายใหญ่ แต่การอ่อนค่าลงของเงินปอนด์ได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,376.85 จุด ลดลง 8.67 จุด หรือ -0.12%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 3.3% และหุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะอุตสาหกรรมร่วง 2% เนื่องจากราคาน้ำมันและโลหะปรับตัวลงจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงจากจีนซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับโลกของโลก โดยจีนต้องกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์เมืองต่าง ๆ อีกครั้งหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ปัจจัยที่ถ่วงราคาน้ำมันดิบยังมาจากรายงานที่ว่าซาอุดีอาระเบียและผู้ผลิตโอเปกรายอื่น ๆ กำลังพิจารณาที่จะเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบอีกครึ่งล้านบาร์เรลต่อวัน
หุ้นแอสตร้าเซนเนก้าและหุ้นแกล็กโซสมิทไคล์น เพิ่มขึ้น 1.4% และ 2.1% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นยูนิลีเวอร์, หุ้นดิอาจีโอ และหุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค ซึ่งมีรายได้เป็นดอลลาร์นั้น ปรับตัวขึ้น 1.1-1.8% โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง
ส่วนหุ้นรายตัวที่ปรับตัวลง อาทิ หุ้นคอมพาส กรุ๊ป ซึ่งให้บริการด้านการจัดเลี้ยง ร่วงลง 1.4% หลังคาดการณ์ผลกำไรจากการดำเนินทั้งปี 2566 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์