ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นในวันอังคาร (22 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มน้ำมัน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซน ท่ามกลางการส่งสัญญาณที่ไร้ทิศทางจากผู้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 436.22 จุด เพิ่มขึ้น 3.16 จุด หรือ +0.73%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,657.53 จุด เพิ่มขึ้น 23.08 จุด หรือ +0.35%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,422.35 จุด เพิ่มขึ้น 42.42 จุด หรือ +0.29% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,452.84 จุด เพิ่มขึ้น 75.99 จุด หรือ +1.03%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซซึ่งพุ่งขึ้น 4.8% ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น หลังจากซาอุดีอาระเบียเปิดเผยว่า กลุ่มโอเปกพลัสยังคงยึดมั่นต่อนโยบายการปรับลดการผลิตน้ำมันและอาจดำเนินการต่อไปเพื่อสร้างสมดุลตลาด
ดัชนี STOXX 600 ทะยานขึ้นเกือบ 15% แล้วจากระดับต่ำสุดในเดือนก.ย. โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน แม้มีความวิตกเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในยูโรโซนก็ตาม
บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายเดือนพ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ (23 พ.ย.) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อเดือนต.ค.ของสหรัฐชะลอตัวลง ซึ่งทำให้มีความหวังว่า เฟดจะลดอัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย
เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณที่แตกต่างกันเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในยูโรโซน โดยนายโจชิม นาเจล ประธานธนาคารกลางเยอรมนีบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยลง ขณะที่นายโรเบิร์ต โฮลซ์แมนน์ ประธานธนาคารกลางออสเตรียกล่าวว่าเขาสนับสนุนให้ ECB ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งต่อไป
ตลาดหุ้นอิตาลีพุ่งขึ้นขานรับรัฐบาลใหม่ของอิตาลีอนุมัติงบประมาณ 3.5 หมื่นล้านยูโร (3.584 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งมุ่งควบคุมราคาพลังงานที่พุ่งทะยานขึ้น และปรับลดภาษีตั้งแต่ปีหน้าให้กับพนักงานบริษัทและผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว
หุ้นรายตัวที่พุ่งขึ้น อาทิ หุ้นเรปโซลซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของสเปน พุ่งขึ้น 6.8% หลังอาร์บีซีปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนหุ้นตัวนี้ว่าปรับตัวโดดเด่นกว่าตลาด (outperform)