ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (23 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ซึ่งช่วยชดเชยการร่วงลงของหุ้นเครดิตสวิสหลังเตือนเกี่ยวกับผลกำไร ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 438.82 จุด เพิ่มขึ้น 2.60 จุด หรือ +0.60%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,679.09 จุด เพิ่มขึ้น 21.56 จุด หรือ +0.32%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,427.59 จุด เพิ่มขึ้น 5.24 จุด หรือ +0.036% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,465.24 จุด เพิ่มขึ้น 12.40 จุด หรือ +0.17%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นสู่ระดับแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 1.8% ขณะที่หุ้นกลุ่มเดินทางและนันทนาการ และกลุ่มค้าปลีก ปรับตัวขึ้น 1.9% และ 1.7% ตามลำดับ
หุ้นธนาคารเครดิตสวิส ร่วงลง 6.1% หลังประมาณการยอดขาดทุนก่อนหักภาษีสูงถึง 1.5 พันล้านฟรังก์สวิส (1.58 พันล้านดอลลาร์) ในไตรมาส 4 เนื่องจากลูกค้าถอนเงินออกจำนวนมาก
ผลสำรวจบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐหดตัวลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันในเดือนพ.ย. เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นชะลออุปสงค์ แต่กิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนลดลงเล็กน้อย ขณะที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2566
ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐและยุโรปลดลง หลังข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มความหวังว่าธนาคารกลางต่าง ๆ จะสามารถสกัดเงินเฟ้อและยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ดัชนี STOXX 600 ทะยานขึ้น 14.6% แล้วจากระดับปิดต่ำสุดในเดือนก.ย. โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ดีเกินคาดในไตรมาส 3
บรรดานักลงทุนรอการเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟดหลังปิดตลาดยุโรป และรายงานการประชุมของ ECB ในวันพฤหัสบดีนี้