ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลบเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาค รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของกรุงโตเกียว และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขั้นสุดท้ายของสิงคโปร์ ส่วนตลาดเงินสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้าเมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) และจะปิดทำการเร็วกว่าปกติในวันนี้ (25 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,286.94 จุด ลดลง 96.15 จุด หรือ -0.34%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 17,508.86 จุด ลดลง 152.04 จุด หรือ -0.86% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,101.43 จุด เพิ่มขึ้น 12.12 จุด หรือ +0.39%
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานเดือนพ.ย.ของกรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อทั่วประเทศ ปรับตัวขึ้นที่ระดับเร็วที่สุดในรอบ 40 ปี เมื่อเทียบเป็นรายปี และทะลุเป้า 2% ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 ซึ่งส่งสัญญาณถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเป็นวงกว้าง
รัฐบาลญี่ปุ่นระบุในวันนี้ (25 พ.ย.) ว่า ดัชนี CPI พื้นฐานของกรุงโตเกียว ซึ่งไม่รวมราคาอาหารสด แต่รวมเชื้อเพลิง ปรับตัวขึ้นแตะ 3.6% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยสูงกว่าคาดการณ์เฉลี่ยของตลาดที่ 3.5% และการปรับขึ้น 3.4% ในเดือนต.ค.
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันพฤหัสบดี โดยเมืองเจิ้งโจวประกาศปูพรมตรวจหาเชื้อครั้งใหญ่ หลังจากเกิดเหตุประท้วงที่โรงงานฟ็อกซ์คอนน์ในเมืองดังกล่าว และทางการสั่งล็อกดาวน์เมืองเป็นเวลา 5 วัน
ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดพุ่งขึ้นกว่า 4% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือน หลังนายอันวาร์ อิบราฮิมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของมาเลเซีย