ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ แม้ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย.ของจีนต่ำกว่าคาดการณ์และหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,858.16 จุด ลดลง 169.68 จุด หรือ -0.61%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 18,245.04 จุด เพิ่มขึ้น 40.36 จุด หรือ +0.22% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,156.50 จุด เพิ่มขึ้น 6.75 จุด หรือ +0.21%
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย.อยู่ที่ระดับ 48 ลดลงจากระดับ 49.2 ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดไว้ที่ 49
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการซึ่งเป็นมาตรวัดความเชื่อมั่นของธุรกิจในภาคบริการอยู่ที่ระดับ 46.7 ในเดือนพ.ย. ลดลงจากระดับ 48.7 ในเดือนต.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของจีนอยู่ในภาวะหดตัว
จีนประกาศมาตรการเพื่อเร่งฉีดวัคซีนให้แก่ผู้สูงอายุเมื่อช่วงบ่ายวันอังคาร (29 พ.ย.) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง แต่เมื่อถูกถามว่าจีนจะปรับเปลี่ยนนโยบายโควิดเป็นศูนย์หรือไม่ หลังจากที่เกิดเหตุประท้วงต่อต้านการล็อกดาวน์ในประเทศ เจ้าหน้าที่ตอบแต่เพียงว่า กำลังจับตาสถานการณ์โควิด-19 อย่างใกล้ชิด ในขณะที่ไวรัสดังกล่าวมีการพัฒนาและกลายพันธุ์
บริษัทฟาสต์ รีเทลลิงของญี่ปุ่น และบริษัทเสี่ยวเผิง ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้าของจีนมีกำหนดรายงานผลประกอบการวันนี้ ขณะที่ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตรียมกล่าวสุนทรพจน์ที่สถาบันบรูกกิงส์ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ