ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (1 ธ.ค.) และอยู่เหนือระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากนักลงทุนขานรับความเห็นของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย และจีนตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 443.96 จุด เพิ่มขึ้น 3.92 จุด หรือ +0.89%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,753.97 จุด เพิ่มขึ้น 15.42 จุด หรือ +0.23%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,490.30 จุด เพิ่มขึ้น 93.26 จุด หรือ +0.65% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,558.49 จุด ลดลง 14.56 จุด หรือ -0.19%
ดัชนี STOXX 600 แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. และปรับตัวขึ้น 6.8% ในเดือนพ.ย.ซึ่งเป็นการปรับขึ้นรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีช่วยหนุนตลาด โดยพุ่งขึ้น 2.9% ขณะที่บรรดาเทรดเดอร์บ่งชี้ว่า ได้แรงหนุนจากบริษัทเซลส์ฟอร์สของสหรัฐซึ่งปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไร
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนที่ลดลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ หลังนายพาวเวลเปิดเผยเมื่อวันพุธ (30 พ.ย.) ว่า เฟดอาจจะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนธ.ค. ขณะที่มีสัญญาณบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง
ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซนที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ซึ่งเพิ่มแนวโน้มที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานลดลง 0.9% หลังปรับตัวขึ้น 2 วันติดกันขานรับแนวโน้มอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากจีน