ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันพฤหัสบดี (1 ธ.ค.) หลังปรับตัวขึ้น 2 วันติดต่อกัน โดยหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มการเงินร่วงลง และการแข็งค่าของเงินปอนด์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ถ่วงตลาดลงด้วย หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,558.49 จุด ลดลง 14.56 จุด หรือ -0.19%
หุ้นบีพีและหุ้นเชลล์ ลดลง 1.6% และ 2.5% ตามลำดับ
หุ้นของบริษัทที่ทำธุรกิจในแอฟริกาใต้ร่วงลง อาทิ หุ้นอินเวสเทค, หุ้นโอลด์ มิวชวล ไนน์ตี วัน และหุ้นแองโกล อเมริกัน โดยถูกกระทบจากข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา ผู้นำแอฟริกาใต้
หุ้นเพียร์สัน ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทด้านการศึกษา ร่วง 5.2% หลังเอ็กแซน บีเอ็นพี พาริบาส์ ปรับลดอันดับการลงทุนหุ้นตัวนี้ จาก "ปรับตัวดีกว่าตลาด" เป็น "ปรับตัวเท่ากับตลาด"
แต่หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ปรับตัวขึ้น 1% แม้ข้อมูลบ่งชี้ว่า ราคาบ้านร่วงลง 1.4% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบกับการลดลง 0.9% ในเดือนต.ค.ซึ่งเป็นการลดลงรายเดือนรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563
หุ้นกลุ่มบริการรับส่งอาหาร อาทิ โอคาโด พุ่งขึ้น 6.8% หลังเจฟฟรีย์ระบุว่า ธุรกิจนี้มี EBITDA ที่น่าดึงดูดใจ