ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทรุดตัวลงกว่า 400 จุด หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งเกินคาด ขณะที่ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงของแรงงานสูงกว่าคาดเช่นกัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ณ เวลา 20.53 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 418 จุด หรือ 1.21% สู่ระดับ 34,011 จุด
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรถือเป็นตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญตัวสุดท้าย ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายของปีนี้ในวันที่ 13-14 ธ.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 263,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวระดับ 3.7% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ดีดตัวขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.3% และเพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 4.6%
ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 269,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 315,000 ตำแหน่ง และปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนต.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 284,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 261,000 ตำแหน่ง
กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 221,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 42,000 ตำแหน่ง
ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด อยู่ที่ระดับ 62.1%