หุ้นยุโรปเปิดตลาดลบในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มการเงินและพลังงาน เนื่องจากข้อมูลกิจกรรมภาคบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในเชิงรุกต่อไป
ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 440.94 จุด ลดลง 0.53 จุด หรือ -0.12% โดยเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกันวันที่ 3
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดวันนี้ที่ 14,406.87 จุด ลดลง 40.74 จุด หรือ -0.28% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 6,677.49 จุด ลดลง 19.47 จุด หรือ -0.29%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลง 0.7% ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารร่วง 0.6% แต่ตลาดยังคงรับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เนสท์เล่และยูนิลีเวอร์
ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความยืดหยุ่น ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกว่า เฟดอาจเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยในวันจันทร์ (5 ธ.ค.) ว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 56.5 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 54.4 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 53.1 โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ
ขณะที่ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ที่ 2 ธ.ค.ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 263,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง