ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันอังคาร (6 ธ.ค.) โดยลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันแล้ว หลังหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยร่วงลง ขณะที่นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวก่อนธนาคารกลางรายใหญ่ประชุมกำหนดนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 438.92 จุด ลดลง 2.55 จุด หรือ -0.58%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,687.79 จุด ลดลง 9.17 จุด หรือ -0.14%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,343.19 จุด ลดลง 104.42 จุด หรือ -0.72% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,521.39 จุด ลดลง 46.15 จุด หรือ -0.61%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งได้บดบังปัจจัยบวกจากการที่จีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19
ธนาคารกลางยุโรป (ECB), ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะประชุมในสัปดาห์หน้าเพื่อหารือเกี่ยวกับนโยบายการเงิน ขณะที่ธนาคารกลางออสเตรเลียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 ปีในวันอังคาร และคาดว่าจะปรับขึ้นอีกหากจำเป็นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
ตลาดกลับมาวิตกว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลภาคบริการของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ย. และข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ลดลง 1.6% โดยปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ ร่วง 1.2% และถ่วงดัชนี STOXX 600 ลงมากที่สุด