ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันอังคาร (6 ธ.ค.) โดยปรับตัวลงตามตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้เกิดความวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุก
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,521.39 จุด ลดลง 46.15 จุด หรือ -0.61%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ โดยปรับตัวลงตามดัชนี S&P500 ซึ่งร่วงลงกว่า 1% เนื่องจากซีอีโอของเจพีมอร์แกน เชสเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากที่การเปิดเผยข้อมูลภาคบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้เกิดความวิตกว่า เฟดอาจจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกเป็นระยะเวลาที่นานขึ้น
หุ้นกลุ่มเหมืองโลหะมีค่าและโลหะพื้นฐาน ร่วงลง 2.5% และ 0.5% ตามลำดับ หลังจากราคาโลหะปรับตัวลง
นอกจากนี้ ตลาดคาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในสัปดาห์หน้า ขณะที่นักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของอังกฤษในสัปดาห์หน้าด้วยเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางการคุมเข้มนโยบายการเงินของ BoE
หุ้นรายตัวที่ปรับตัวลง อาทิ หุ้นมอนดิ ซึ่งเป็นบริษัทด้านบรรจุภัณฑ์ ร่วงลง 4.7% หลังเครดิตสวิสปรับลดคำแนะนำลงทุนหุ้นตัวนี้
ส่วนหุ้นบาร์เคลย์ส ปรับตัวขึ้น 1.6% สวนทางตลาด หลังเจพี มอร์แกน ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นเป็น 220 เพนซ์ จาก 180 เพนซ์