ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ วิตกโควิดเพิ่มในจีน-จับตาประชุมธ.กลาง

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (12 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากการที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในจีน ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 436.98 จุด ลดลง 2.15 จุด หรือ -0.49%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,650.55 จุด ลดลง 27.09 จุด หรือ -0.41%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,306.63 จุด ลดลง 64.09 จุด หรือ -0.45% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,445.97 จุด ลดลง 30.66 จุด หรือ -0.41%

นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย หลังจากธนาคารกลางรายใหญ่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุก ขณะที่มีความหวังว่า ธนาคารกลางต่าง ๆ จะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่า เฟดและ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันพุธและพฤหัสบดีนี้ตามลำดับ

ดัชนี STOXX 600 ร่วงลงเกือบ 10.4% แล้วในปีนี้ โดยได้รับผลกระทบจากการคุมเข้มนโยบายการเงินของ ECB เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในจีนทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะชะงักงันของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มบริษัทสินค้าหรูหราซึ่งพึ่งพาลูกค้าชาวจีน อาทิ หุ้นหลุยส์วิตตอง

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ปรับตัวลงด้วย 1.7% เนื่องจากราคาทองแดงปรับตัวลงจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีน และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ

หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวลงด้วย นำโดยหุ้นพรูเดนเชียล ซึ่งเป็นบริษัทประกันที่พึ่งพาตลาดจีน ร่วงลง 2.7%

หุ้นซาโนฟี่ลดลง 0.24% หลังเปิดเผยว่า บริษัทยกเลิกการเจรจาเพื่อซื้อกิจการของฮอริซอน เทอราพิวติกส์

แต่หุ้นตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน พุ่งขึ้น 3.0% สวนทางตลาด หลังไมโครซอฟท์ตกลงซื้อหุ้น 4% อันเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่จะย้ายข้อมูลของตลาดไปสู่ระบบคลาวด์