ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ ขณะที่ นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,946.09 จุด เพิ่มขึ้น 103.76 จุด หรือ +0.37%, ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,572.66 จุด เพิ่มขึ้น 109.03 จุด หรือ +0.56% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,172.36 จุด ลดลง 6.68 หรือ -0.21%
นายจอห์น ลี ผู้บริหารเกาะฮ่องกงระบุในวันนี้ (13 ธ.ค.) ว่า ฮ่องกงจะยกเลิกการบังคับใช้มาตรการจำกัดนักเดินทางฮ่องกงจากการไปใช้บริการบาร์ หรือรับประทานอาหารในร้านอาหารตั้งแต่วันพุธที่ 14 ธ.ค.เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ประชาชนในฮ่องกงจะไม่จำเป็นต้องใช้แอปพลิเคชัน LeaveHomeSafe ซึ่งเป็นแอปติดตามประวัติการเดินทางอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม พวกเขายังต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในบางสถานที่ เช่น การเข้ารับประทานอาหารในร้านอาหาร
ฮ่องกงจะเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมสำหรับไตรมาส 3/2565 ในวันนี้ (13 ธ.ค.) ขณะเดียวกัน ธนาคารเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) มีกำหนดเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นธุรกิจออสเตรเลีย
ส่วนธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ย.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือนพ.ย.ของสหรัฐในวันนี้ (13 ธ.ค.) โดยดัชนี CPI เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะขยายตัว 7.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากเดือนต.ค.ที่มีการขยายตัว 7.7% และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 6.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากเดือนต.ค.ที่มีการขยายตัว 6.3%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาผลการประชุมเฟดในวันพุธที่ 14 ธ.ค.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 15 ธ.ค.ตามเวลาไทย ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมรอบนี้ หลังจากปรับขึ้น 0.75% เป็นจำนวน 4 ครั้งติดต่อกัน