ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 200 จุด ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้
นอกจากนี้ ตลาดได้ปัจจัยหนุนจากการเปิดเผยดัชนีราคานำเข้า ซึ่งปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 5 และสนับสนุนมุมมองที่ว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ณ เวลา 23.23 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,310.19 จุด บวก 201.55 จุด หรือ 0.59%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันในเดือนพ.ย. โดยมีสาเหตุจากการปรับตัวลงของราคาพลังงาน รวมทั้งการแข็งค่าของดอลลาร์
ทั้งนี้ ดัชนีราคานำเข้าลดลง 0.6% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนต.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีราคานำเข้าลดลง 0.5% ในเดือนพ.ย.
นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมคืนนี้ ซึ่งเป็นการประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายของปี หลังจากปรับขึ้น 0.75% เป็นจำนวน 4 ครั้งติดต่อกัน ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลหลังการประชุมคืนนี้ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2566 รวมทั้งการเปิดเผยคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งจะส่งสัญญาณแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดจนถึงปี 2568
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งคาดว่าทั้ง ECB และ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เช่นกัน