ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อยในวันพุธ (14 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายหุ้นเพื่อรอมติการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งประกาศหลังจากตลาดยุโรปปิดทำการไปแล้ว
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 442.51 ลดลง 0.09 จุด หรือ -0.02%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,730.79 จุด ลดลง 14.19 จุด หรือ -0.21%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,460.20 จุด ลดลง 37.69 จุด หรือ -0.26% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,495.93 จุด ลดลง 6.96 จุด หรือ -0.09%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัว หลังพุ่งขึ้นมากกว่า 1% ในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดของสหรัฐ ซึ่งเพิ่มความหวังว่าเฟดจะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย
ทั้งนี้ หลังปิดตลาดยุโรป คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี
นักลงทุนจะจับตาการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าทั้งสองธนาคารจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เช่นกัน
หุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อาทิ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ลดลง 0.9% ขณะที่กลุ่มธนาคาร ลบ 0.5%
หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและนันทนาการ ร่วงลง 1.4% ขณะที่หุ้น TUI ของอังกฤษ ร่วง 8.0% หลังเปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะจ่ายเงินสนับสนุนด้านโรคโควิด-19 ผ่านทางการเพิ่มทุนในปีหน้า
ส่วนหุ้นกลุ่มปลอดภัยปรับตัวขึ้น อาทิ หุ้นเนสท์เล่ และยูนิลีเวอร์ ต่างก็เพิ่มขึ้น 1%
หุ้นอินดิเทกซ์ เจ้าของแบรนด์ซาร่า พุ่ง 3.1% หลังเปิดเผยกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกของปีงบการเงินเพิ่มขึ้น 24%