ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (15 ธ.ค.) สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนและเป็นการร่วงลงวันเดียวหนักที่สุดในรอบ 6 เดือน หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน และส่งสัญญาณว่าจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 429.91 จุด ลดลง 12.60 จุด หรือ -2.85%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,522.77 จุด ลดลง 208.02 จุด หรือ -3.09%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,986.23 จุด ลดลง 473.97 จุด หรือ -3.28% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,426.17 จุด ลดลง 69.76 จุด หรือ -0.93%
ดัชนี STOXX 600 ร่วงลงวันเดียวหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. หลัง ECB มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันพฤหัสบดี ตามการคาดการณ์ของตลาด
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับ 2.50% และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2551 ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ระดับ 2.0% และ 2.75% ตามลำดับ
ส่วนธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ตามคาด และบ่งชี้ว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อเช่นกัน
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมถ่วงตลาดลง ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยร่วงลง 4.7% และหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 2.6%
หุ้นเอชเอสบีซี ร่วง 1.0% หลังกลุ่มนักลงทุนรายย่อยในฮ่องกงเรียกร้องครั้งใหม่ให้ HSBC กลับมาจ่ายเงินปันผล และกำหนดแผนการที่จะแยกธุรกิจ
หุ้นเอชแอนด์เอ็ม (H&M) ร่วง 6.9% และถ่วงหุ้นกลุ่มค้าปลีกลงด้วย หลังบริษัทเปิดเผยยอดขายรายไตรมาสที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้