ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันศุกร์ (16 ธ.ค.) และร่วงลงรุนแรงในรอบสัปดาห์นี้ หลังจากธนาคารกลางรายใหญ่ ๆ ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 424.74 จุด ลดลง 5.17 จุด หรือ -1.20% และร่วงลงเกือบ 3.3% ในรอบสัปดาห์นี้
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,452.63 จุด ลดลง 70.14 จุด หรือ -1.08%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,893.07 จุด ลดลง 93.16 จุด หรือ -0.67% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,332.12 จุด ลดลง 94.05 จุด หรือ -1.27%
ดัชนี STOXX 600 ร่วงลงต่อเนื่องจากวันพฤหัสบดี หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB), ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่างก็ส่งสัญญาณว่า จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปแม้จะเพิ่มความเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจก็ตาม
เจพีมอร์แกนปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสูงสุดของยูโรโซนจากระดับ 2.50% เป็น 3.25%
นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังข้อมูลที่เปิดเผยในวันศุกร์บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนในเดือนธ.ค.หดตัวลงในอัตราต่ำสุดในรอบ 4 เดือน แต่ยังคงหดตัวเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน
การเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกของอังกฤษที่ลดลงเกินคาดในเดือนพ.ย.ส่งผลกดดันตลาดหุ้นยุโรปด้วย
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ถ่วงตลาดลง โดยหุ้นไบเออร์ เอจี และหุ้นแอสตร้าเซนเนก้า ร่วง 3.8% และ 1.8% ตามลำดับ
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม ร่วง 4.8% โดยลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวลงด้วย
หุ้นกลุ่มเทเลคอม ร่วงลง 2.5% โดยถูกกดดันจากหุ้นเทเลทู เอบี (Tele2 AB) ซึ่งร่วงลง 6.5% หลังซิตี้กรุ๊ปปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นดังกล่าว