ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพฤหัสบดี (22 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐท่ามกลางความวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุก หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 427.26 จุด ลดลง 4.18 จุด หรือ -0.97%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,517.97 จุด ลดลง 62.27 จุด หรือ -0.95%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,914.07 จุด ลดลง 183.75 จุด หรือ -1.30% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,469.28 จุด ลดลง 28.04 จุด หรือ -0.37%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานที่ตึงตัว และการปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์จีดีพีของสหรัฐทำให้เกิดความวิตกว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปนานกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
ความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยถ่วงตลาดหุ้นยุโรปลงด้วย หลังจากที่ธนาคารกลางต่าง ๆ ดำเนินนโยบายคุมเข้มทางการเงินเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
เทรดเดอร์และนักวิเคราะห์ระบุว่า การซื้อขายที่เบาบางก่อนวันหยุดส่งผลกระทบต่อการซื้อขายด้วย
ส่วนตลาดหุ้นลอนดอนนั้นปรับตัวลง หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของอังกฤษหดตัวลงมากกว่าคาดในไตรมาส 3
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ร่วงลง 2.5% ขณะที่หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ อาทิ เอเอสเอ็มแอล โฮลดิ้ง และอินฟิเนียน เทคโนโลยีส์ ร่วงลงมากกว่า 3% โดยปรับตัวลงตามหุ้นกลุ่มเดียวกันของสหรัฐ หลังบริษัทไมครอน เทคโนโลยี คาดการณ์ยอดขาดทุนไตรมาส 2 มากกว่าคาด
หุ้นกลุ่มธนาคาร ลดลง 0.4% หลังแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนยังคงปรับตัวขึ้นก็ตาม