ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (20 ม.ค.) โดยยังคงได้แรงหนุนจากการที่จีนเปิดประเทศ แต่ตลาดยังคงปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายขณะจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่าง ๆ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 452.12 จุด เพิ่มขึ้น 1.67 จุด หรือ +0.37%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,995.99 จุด เพิ่มขึ้น 44.12 จุด หรือ +0.63%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,033.56 จุด เพิ่มขึ้น 113.20 จุด หรือ +0.76% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,770.59 จุด เพิ่มขึ้น 23.30 จุด หรือ +0.30%
ตลาดได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเดินทางและนันทนาการ รวมถึงหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ปรับตัวขึ้น
แต่ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวลง 0.1% ในรอบสัปดาห์นี้ แม้แตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนเมื่อต้นสัปดาห์ก็ตาม โดยดัชนีถูกกดดันจากการเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียน, ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ และความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนก.พ. ขณะที่คาดว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราซึ่งพึ่งพาตลาดจีน อาทิ หลุยส์วิตตองและแอร์เมส ปรับตัวขึ้นราว 0.8%
จีนเปิดเผยว่าภาวะเลวร้ายที่สุดในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ได้สิ้นสุดลงแล้วก่อนวันศุกร์ (20 ม.ค.) ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันเดินทางที่คึกคักที่สุดในรอบหลายปีของจีน ขณะที่การเคลื่อนย้ายของผู้คนจำนวนมากนั้นทำให้เกิดความวิตกว่า การแพร่ระบาดอาจพุ่งขึ้นอีก