ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (23 ม.ค.) โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดปรับตัวขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นที่ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงได้นั้น ได้บดบังการแสดงความเห็นที่สนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงินของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB)
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 454.49 จุด เพิ่มขึ้น 2.37 จุด หรือ +0.52%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,032.02 จุด เพิ่มขึ้น 36.03 จุด หรือ +0.52%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,102.95 จุด เพิ่มขึ้น 69.39 จุด หรือ +0.46% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,784.67 จุด เพิ่มขึ้น 14.08 จุด หรือ +0.18%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่ง 2.3% ตามหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดหุ้นสหรัฐ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ อาทิ หุ้นเอเอสเอ็มแอล โฮลดิ้ง และหุ้นอินฟิเนียน เทคโนโลยีส์
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราที่พึ่งพาตลาดจีน อาทิ หลุยส์วิตตอง และเคอริ่ง ปรับตัวขึ้น 0.8% และ 1.7% ตามลำดับ ขานรับจีนยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่เข้มงวด
หุ้นกลุ่มธนาคารของยูโรโซนที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ปรับตัวขึ้น 0.8%
บรรดานักลงทุนจับตาความเห็นของนางคริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB ซึ่งจะกล่าวแถลงในวันจันทร์ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับแผนการคุมเข้มนโยบายการเงิน
แม้มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อชะลอตัวลงในยูโรโซน แต่กรรมการ ECB ยังคงสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงิน โดยนายคาส น็อต และนายปีเตอร์ คาซิมีร์ กรรมการ ECB สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% อีก 2 ครั้ง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงให้ความสนใจกับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ และผลสำรวจดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของยูโรโซนประจำเดือนม.ค.ที่จะเปิดเผยในวันอังคาร หลังข้อมูลในวันจันทร์บ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในยูโรโซนปรับตัวขึ้นในเดือนม.ค.จากเดือนธ.ค.