ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (6 ก.พ.) โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกอาจดำเนินไปนานกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 457.16 จุด ลดลง 3.61 จุด หรือ -0.78%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,137.10 จุด ลดลง 96.84 จุด หรือ -1.34%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,345.91 จุด ลดลง 130.52 จุด หรือ -0.84% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,836.71 จุด ลดลง 65.09 จุด หรือ -0.82%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่เข้าทดสอบในวันศุกร์ซึ่งได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจยูโรโซน
การเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานและภาคบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้เกิดความวิตกว่า อัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป
ยอดสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีปรับตัวขึ้นเกินคาดในเดือนธ.ค. ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หลังจากปรับขึ้น 0.50% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้นเกือบทุกกลุ่มปรับตัวลง โดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มเทคโนโลยีเผชิญแรงขายอย่างหนักและร่วงลงราว 2%
หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวลง 2.2%
นอกจากนี้ ความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีน-สหรัฐถ่วงตลาดลงด้วย โดยหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราที่พึ่งพาตลาดจีน อาทิ แอร์เมส, หลุยส์วิตตอง และเคอริ่ง ร่วงลงราว 1.8-3.8%
หุ้นพรูเดนเชียล ซึ่งเป็นบริษัทบริการด้านการเงินที่ดำเนินธุรกิจส่วนใหญ่ในจีนถ่วงตลาดลงด้วย