ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันจันทร์ (6 ก.พ.) หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้เกิดความวิตกว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) แสดงความวิตกว่า อัตราดอกเบี้ยจำเป็นต้องปรับขึ้นต่อไปอีกนาน
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,836.71 จุด ลดลง 65.09 จุด หรือ -0.82% หลังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
หุ้นเกือบทุกกลุ่มปิดลดลง แต่กลุ่มโลหะมีค่าปรับตัวขึ้น 0.7% สวนทางตลาด
หุ้นพรูเดนเชียล บริษัทบริการด้านการเงินซึ่งดำเนินธุรกิจกับจีน ร่วงลงเกือบ 5% จากความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีน-สหรัฐ
การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้ตลาดคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ก็เป็นการส่งสัญญาณว่า อัตราดอกเบี้ยอาจต้องปรับขึ้นต่อไป โดยนางแคเธอรีน แมนน์ ผู้กำหนดนโยบายของ BoE สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หลังจาก BoE ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 10 ติดต่อกันในสัปดาห์ที่ผ่านมา และส่งสัญญาณปรับขึ้นอีกเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่ระดับสูง
การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในวันจันทร์บ่งชี้ว่า ภาคการก่อสร้างของอังกฤษปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในรอบเกือบ 3 ปีในเดือนม.ค. เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อการสร้างบ้านอย่างหนัก
บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ อาทิ บีพี, แอสตร้าเซนเนก้า และยูนิลีเวอร์