ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุด ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน
ณ เวลา 21.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,178.93 จุด บวก 229.92 จุด หรือ 0.68%
ราคาหุ้นของบริษัทดิสนีย์และเป๊ปซี่โคต่างพุ่งขึ้นในวันนี้ หลังเปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้สูงกว่าคาด
ขณะนี้ บริษัทในดัชนี S&P 500 จำนวน 63% ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2565 แล้ว โดยบริษัทในกลุ่มดังกล่าวจำนวน 69.5% รายงานผลกำไรที่ดีกว่าคาด
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้ปัจจัยหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขว่างงานสูงกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 13,000 ราย สู่ระดับ 196,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 190,000 ราย
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 38,000 ราย สู่ระดับ 1.688 ล้านราย
ตลาดหุ้นยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขว่างงานดังกล่าว
ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์จะช่วยเพิ่มกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ ส่วนการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการชำระหนี้ของบริษัทต่างๆ ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถเพิ่มการลงทุน และเพิ่มการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในสัปดาห์หน้า รวมทั้งถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด