ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่สองในวันพฤหัสบดี (9 ก.พ.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการชำระหนี้ของผู้บริโภคและบริษัทเอกชน
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,250.85 จุด ลดลง 19.54 จุด หรือ -0.60% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 21,237.25 จุด ลดลง 387.11 จุด หรือ -1.79% ส่วนดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,722.92 จุด เพิ่มขึ้น 138.57 จุด หรือ +0.50%
สำหรับข้อมูลเงินเฟ้อจีนที่ตลาดจับตาอย่างใกล้ชิดนั้น สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 2.1% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งมากกว่าในเดือนธ.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 1.8% แต่ตัวเลขดังกล่าวออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.2% เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคเป็นไปอย่างจำกัด แม้ว่ารัฐบาลได้ยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19 เป็นส่วนใหญ่แล้วก็ตาม
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ปรับตัวลง 0.8% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งมากกว่าในเดือนธ.ค.ที่ลดลง 0.7% และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจลดลง 0.5%
นักวิเคราะห์คาดว่า ข้อมูลเงินเฟ้อที่ซบเซาอาจจะผลักดันให้รัฐบาลจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งขึ้น
บริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริง โค (TSMC) มีกำหนดเปิดเผยยอดขายรายเดือนในวันนี้ นอกจากนี้ บริษัทในญี่ปุ่นเช่น ฮอนด้า, ชิเซโด้ และโอลิมปัส รวมทั้งบริษัทคาเคา คอร์ปของเกาหลีใต้ จะเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสในวันนี้เช่นกัน
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในสัปดาห์หน้า เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด