ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (13 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มผลิตอุปกรณ์ป้องกันประเทศ (defence stocks) ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 462.03 จุด เพิ่มขึ้น 4.14 จุด หรือ +0.90%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,208.59 จุด เพิ่มขึ้น 78.86 จุด หรือ +1.11%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,397.34 จุด เพิ่มขึ้น 89.36 จุด หรือ +0.58% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,947.60 จุด เพิ่มขึ้น 65.15 จุด หรือ +0.83%
หุ้นซาบ (SAAB) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์ป้องกันของสวีเดน พุ่งขึ้น 7.4% ขณะที่หุ้นเทลส์, หุ้นแอร์บัส และหุ้นไรน์เมทัล ปรับตัวขึ้น 1.3-2.5% หลังมีรายงานข่าวว่า อินเดียต้องการที่จะเพิ่มมูลค่าการส่งออกอุปกรณ์ป้องกันประเทศต่อปีขึ้นเป็น 3 เท่าสู่ระดับ 5 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2567/2568
ดัชนีหุ้นกลุ่มการบินและอวกาศรวมถึงการป้องกันประเทศ เพิ่มขึ้น 1.9%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้น 8.7% แล้วในปีนี้โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียนและแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซนที่สดใสขึ้น
คณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยในวันจันทร์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโน้มแข็งแกร่งเกินคาดในปีนี้ ขณะที่เงินเฟ้อจะลดลงต่ำกว่าที่ไว้คาดในช่วงสิ้นปี 2565
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 1.3% และหนุนดัชนี STOXX 600 ขึ้นมากที่สุด ขณะที่หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ ยูนิลีเวอร์ และเนสท์เล่ ก็ช่วยหนุนตลาดขึ้นด้วย
บรรดานักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในวันอังคารนี้ ซึ่งจะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)