ดาวโจนส์ดิ่งกว่า 200 จุด ขายลดความเสี่ยง ก่อนเผยตัวเลขเงินเฟ้อพรุ่งนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 24, 2023 00:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดิ่งลงกว่า 200 จุด ขณะที่นักลงทุนขายลดความเสี่ยง ก่อนการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ

ณ เวลา 23.59 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 32,837.33 จุด ลบ 207.76 จุด หรือ 0.63%

นอกจากนี้ การซื้อขายในตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 192,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 200,000 ราย

ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานอยู่ต่ำกว่าระดับ 200,000 รายติดต่อกันเป็นเวลา 6 สัปดาห์

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 37,000 ราย สู่ระดับ 1.65 ล้านราย

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในช่วงแรก ขณะที่นักลงทุนส่งแรงซื้อเก็งกำไรเข้าตลาด หลังราคาหุ้นปรับตัวลงก่อนหน้านี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเพื่อบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินของเฟด

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2565 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.7% ในไตรมาสดังกล่าว ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ซึ่งระบุว่ามีการขยายตัว 2.9%

การปรับลดตัวเลขประมาณการดังกล่าวมีสาเหตุจากการปรับลดตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคจากระดับ 2.1% สู่ระดับ 1.4% ในไตรมาสดังกล่าว

ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1/2565 และ 0.6% ในไตรมาส 2 ซึ่งทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค ก่อนที่จะมีการขยายตัว 3.2% ในไตรมาส 3

ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน รวมทั้งดัชนี PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ โดยดัชนี PCE สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ