ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (1 มี.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของยูโรโซน แต่การปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มสินค้าหรูหราซึ่งพึ่งพาตลาดจีนได้ช่วยพยุงตลาด หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 457.68 จุด ลดลง 3.43 จุด หรือ -0.74%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,234.25 จุด ลดลง 33.68 จุด หรือ -0.46%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,305.02 จุด ลดลง 60.12 จุด หรือ -0.39% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,914.93 จุด เพิ่มขึ้น 38.65 จุด หรือ +0.49%
หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ร่วงลง 4.2% หลังมีรายงานว่า รัฐบาลเบลเยียมกำลังเตรียมที่จะขายหุ้น 1 ใน 3 จากที่ถืออยู่ 7.8% ในบีเอ็นพี พาริบาส์
ตลาดยังถูกกดดันจากความวิตกของนักลงทุนที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง
เยอรมนีเปิดเผยเมื่อวันพุธว่า เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในเดือนก.พ. และนักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซนประจำเดือนก.พ.ในวันพฤหัสบดีนี้
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคถ่วงตลาดลงด้วย โดยหุ้นไอเบอร์โดลาของสเปนและหุ้นเนชันแนล กริด ร่วงลง 2.3% และ 3.0% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม หุ้นที่พึ่งพาตลาดจีนปรับตัวขึ้น หลังจีนเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตขยายตัวในเดือนก.พ.มากที่สุดในรอบกว่า 10 ปี
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรา อาทิ หลุยส์วิตตอง และเคอริ่ง ปรับตัวขึ้น 0.4% และ 1.2% ตามลำดับ, หุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานของยุโรปปรับตัวขึ้น 2.2% หลังราคาโลหะพุ่งขึ้น และหุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้น 0.9% ด้วย
แต่หุ้นพูม่า ร่วงลง 6.8% หลังบริษัทคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานในปี 2566 จะอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยถูกกดดันจากผลกระทบด้านสกุลเงิน, ค่าระวาง และต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น