ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (3 มี.ค.) ขานรับความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นต่อท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของอุปสงค์ในจีน
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 464.26 จุด เพิ่มขึ้น 4.24 จุด หรือ +0.92% และปรับตัวขึ้น 1.4% ในสัปดาห์นี้
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,348.12 จุด เพิ่มขึ้น 63.90 จุด หรือ +0.88%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,578.39 จุด เพิ่มขึ้น 250.75 จุด หรือ +1.64% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,947.11 จุด เพิ่มขึ้น 3.07 จุด หรือ +0.04%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ปรับตัวขึ้น 1.8% หลังตลาดได้แรงหนุนหลังนายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา สนับสนุนให้เฟดชะลอความแรงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในกลางหรือปลายฤดูร้อน (มิ.ย.-ส.ค.)
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้น 2.2% เนื่องจากมีแนวโน้มที่การเปิดประเทศของจีนจะกระตุ้นความต้องการใช้แร่โลหะ หลังจากข้อมูลบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว
ดัชนีหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นมากกว่า 7% ในสัปดาห์นี้ โดยเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2564 และแซงหน้าหุ้นกลุ่มหลักอื่น ๆ อาทิ กลุ่มสาธารณูปโภค
การเปิดประเทศของจีนเป็นแรงหนุนหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรา อาทิ หลุยส์วิตตองและเคอริ่ง ซึ่งช่วยหนุนตลาดยุโรปในปีนี้เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเหมืองแร่
ผลสำรวจบ่งชี้ว่า การฟื้นตัวของกิจกรรมทางธุรกิจในยูโรโซนเพิ่มขึ้นในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นหลักฐานล่าสุดที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้
หุ้นโฟล์คสวาเกน พุ่ง 10.6% หลังเปิดเผยแนวโน้มยอดขายรถยนต์ที่แข็งแกร่งในปีนี้ และคาดว่าปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานจะบรรเทาลง
หุ้นวอลโว่ คาร์ เอบี พุ่ง 5.8% หลังยอดขายเพิ่มขึ้นในเดือนก.พ.
หุ้นลุฟท์ฮันซ่า พุ่งขึ้น 5.1% หลังเปิดเผยผลประกอบการปี 2565 ที่แข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนยังคงอยู่ในระดับสูงนั้นทำให้นักลงทุนวิตกว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
ตลาดจะจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟด และธนาคารกลางยุโรป (ECB) รวมถึงข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่การประชุมรัฐสภาประจำปีของจีนในวันอาทิตย์ (5 มี.ค.) นั้นจะมีการกำหนดเป้าหมายเศรษฐกิจประจำปี