ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (6 มี.ค.) โดยถูกกดดันหลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) สนับสนุนความจำเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 464.18 จุด ลดลง 0.08 จุด หรือ -0.02%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,373.21จุด เพิ่มขึ้น 25.09 จุด หรือ +0.34%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,653.58จุด เพิ่มขึ้น 75.19 จุด หรือ +0.48% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,929.79 จุด ลดลง 17.32 จุด หรือ -0.22%
ตลาดปรับตัวลง หลังนายฟิลิป เลน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า แม้แรงกดดันด้านราคาลดลง ขณะที่นายโรเบิร์ต ฮอลซ์แมนน์ ประธานธนาคารกลางออสเตรียคาดว่า ECB จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุม 4 ครั้งถัดไป
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกของยูโรโซนซึ่งพุ่งขึ้น 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนม.ค. แต่ลดลง 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ผู้บริโภคที่อ่อนแอและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในวงกว้าง
หุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานร่วงลง 2.7% เนื่องจากราคาโลหะพื้นฐานลดลง หลังจีนกำหนดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ราว 5% ซึ่งอยู่ที่ระดับต่ำของช่วงคาดการณ์
จุดสนใจของตลาดในสัปดาห์นี้จะอยู่ที่การเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ของสหรัฐในวันศุกร์ และนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงนโยบายต่อสภาคองเกรส 2 วันเริ่มตั้งแต่วันอังคารนี้