ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ไม่ขยับ ก่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 19.12 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ทรงตัวที่ระดับ 32,813 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ในวันพรุ่งนี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. หลังจากพุ่งขึ้นเกินคาดถึง 517,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค.
นอกจากนี้ คาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2512
ในการแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดจะจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร รวมทั้งตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 21-22 มี.ค.
นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจยังคงมีความแข็งแกร่ง
"ข้อมูลทางเศรษฐกิจล่าสุดแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยขั้นสุดท้ายของเฟดจะอยู่สูงกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ และหากข้อมูลทั้งหมดบ่งชี้ว่าเฟดควรคุมเข้มนโยบายการเงินให้เร็วขึ้น เราก็จะเพิ่มความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย"
"แม้ว่าเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลง หลังจากแตะจุดสูงสุดในปีที่แล้ว แต่กระบวนการทำให้เงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมาย 2% ยังคงเป็นหนทางอีกยาวไกล และไม่ราบรื่น" นายพาวเวลกล่าว และเสริมว่าภารกิจในการต่อสู้เงินเฟ้อของเฟดยังคงไม่สิ้นสุด และเฟดจำเป็นที่จะต้องคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไปอีกระยะหนึ่ง"
นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนนี้ และเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแตะระดับสูงสุดในกรอบ 5.50-5.75% ในเดือนมิ.ย. รวมทั้งเฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังการกล่าวถ้อยแถลงของนายพาวเวล
ทางด้านออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 242,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 205,000 ตำแหน่ง จากระดับ 119,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค.
ภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 52,000 ตำแหน่ง