ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พลิกปรับตัวสู่แดนบวก ขานรับการชะลอตัวของการจ้างงานในสหรัฐ แม้ยังคงสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นอกจากนี้ นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ หลังตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด
ณ เวลา 21.05 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 48 จุด หรือ 0.15% สู่ระดับ 32,572 จุด
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 311,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ตำแหน่ง แต่ชะลอตัวจากระดับ 504,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค.
ส่วนอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.4%
นอกจากนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% และเพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.8%
ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 100 จุดในช่วงแรก โดยถูกกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตสภาพคล่อง
หุ้นกลุ่มธนาคารสหรัฐปรับตัวลงในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ ต่อเนื่องจากที่ทรุดตัวลงวานนี้
หุ้นเจพีมอร์แกนร่วงลง 1% ก่อนเปิดตลาด หลังจากทรุดตัวลง 5% วานนี้ ขณะที่หุ้นของซิตี้กรุ๊ป และโกลด์แมน แซคส์ปรับตัวลงเช่นกัน
นักลงทุนกังวลว่าภาคธนาคารของสหรัฐจะประสบปัญหาสภาพคล่องเช่นเดียวกับ Silicon Valley Bank (SVB) จากการขาดทุนในการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งมีมูลค่าในพอร์ทลดต่ำลง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ ตลาดวิตกว่าภาคธนาคารจะเผชิญหนี้เสียมากขึ้นจากการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ราคาหุ้นของ SVB Financial Group ซึ่งเป็นเจ้าของ SVB ธนาคารปล่อยกู้แก่ธุรกิจสตาร์ทอัพในกลุ่มเทคโนโลยี ดิ่งลง 45.61% สู่ระดับ 57.68 ดอลลาร์ก่อนเปิดตลาดวันนี้ หลังจากปิดตลาดวานนี้ทรุดตัวลง 60.41% สู่ระดับ 106.04 ดอลลาร์
ทั้งนี้ SVB ประกาศแผนขายหุ้นแก่นักลงทุนวงเงิน 2.25 พันล้านดอลลาร์ในการระดมทุนเพื่อเสริมสภาพคล่อง หลังจากประสบภาวะขาดทุนถึง 1.8 พันล้านดอลลาร์จากการขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ถือครองอยู่ ซึ่งมีมูลค่าในพอร์ทลดลงอย่างมาก จากการที่เฟดประกาศเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ SVB ยังประสบปัญหากระแสเงินสดหมุนเวียนจากการที่ธุรกิจสตาร์ทอัพพากันถอนเงินฝากจากธนาคาร
SVB มีมูลค่าตลาดสูงถึง 1.68 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ ณ ปิดตลาดวานนี้ SVB มีมูลค่าตลาดเหลืออยู่เพียง 6.3 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น และมีการคาดการณ์กันว่ามูลค่าตลาดดังกล่าวจะลดลงอีก หลังจากปิ