หุ้นยุโรปเปิดตลาดบวกขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังระมัดระวังเกี่ยวกับผลกระทบจากการวิกฤติการล้มละลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank) หรือ SVB ที่ยังคงส่งแรงกระเพื่อมไปทั่วตลาดการเงิน และหุ้นกลุ่มธนาคารที่ร่วงลงต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยได้ช่วยหนุนตลาดขึ้นในวันนี้
ดัชนี STOXX 600 เปิดที่ 443.48 จุด เพิ่มขึ้น 0.68 จุด หรือ +0.15% แม้หุ้นกลุ่มธนาคารยังคงปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วัน โดยลดลง 0.7% แต่หุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ดีดตัวขึ้น 1.1% หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวขึ้น 0.7% ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น 0.4%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดวันนี้ที่ 15,016.53 จุด เพิ่มขึ้น 57.06 จุด หรือ +0.38% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดที่ 7,029.22 จุด เพิ่มขึ้น 17.72 จุด หรือ +0.25%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยุโรปปรับตัวลงอีก เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่านโยบายที่เข้มงวดของธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะผ่อนคลายลง โดยนักลงทุนคาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% ในการประชุมนโยบายในวันพฤหัสบดีที่ 16 มี.ค.นี้ หลังจากที่มีการคาดการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ECB จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50%
หุ้นของเครดิตสวิส (Credit Suisse) ร่วงลง 1.3% หลังจากรายงานผลประกอบการประจำปี 2565 บ่งชี้ว่า กระแสเงินสดไหลออกทรงตัวหรือลดลงแต่ยังไม่เปลี่ยนทิศทาง โดยราคาหุ้นร่วงลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นผลจากการเทขายหุ้นอย่างมากในกลุ่มธนาคาร
หุ้นของธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ร่วงลง 1.8% โดยร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 หลังจากที่เอสเอชบีซีสาขาอังกฤษเข้าซื้อกิจการ SVB สาขาอังกฤษ เพื่อช่วยเหลือธนาคารดังกล่าวซึ่งเป็นผู้ปล่อยกู้รายหลักสำหรับบริษัทสตาร์ตอัปเทคโนโลยีในอังกฤษ