ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,344.45 จุด ร่วงลง 292.66 จุดหรือ -3.83%
ตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงวันเดียวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2565 โดยหุ้นกลุ่มธนาคาร ดิ่งลง 5.6% หลังถูกกดดันจากการที่ราคาหุ้นเครดิต สวิส ร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากธนาคารซาอุดี เนชั่นแนล แบงก์ (Saudi National Bank) หรือ SNB ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของเครดิต สวิส ประกาศว่า SNB ไม่สามารถเพิ่มความช่วยเหลือทางการเงินต่อเครดิต สวิส เนื่องจากจะทำให้ SNB ถือหุ้นในเครดิต สวิสมากกว่า 10% ซึ่งจะเป็นการทำผิดกฎระเบียบธนาคาร
หุ้นเอชเอสบีซีซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของยุโรป ร่วงลง 5% ขณะที่หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดและหุ้นบาร์เคลยส์ ร่วง 7.7% และ 9.1% ตามลำดับ
หุ้นกลุ่มพลังงาน ดิ่งลง 8.4% ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่อุตสาหกรรม ร่วง 7.9% เนื่องจากราคาน้ำมันและโลหะปรับตัวลงอย่างหนัก
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นายเจเรมี ฮันต์ รมว.คลังอังกฤษเปิดเผยว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะยังคงหดตัวในปีนี้ แต่จะหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้
บรรดาเทรดเดอร์คาดการณ์ในขณะนี้ว่า มีโอกาส 63% ที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลงในการประชุมสัปดาห์หน้า
ดัชนี FTSE100 ร่วงลง 1.4% แล้วในปีนี้ หลังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงต้นปี โดยถูกกดดันจากวิกฤตธนาคาร, ข้อมูลเศรษฐกิจที่ไร้ทิศทางของจีน และความวิตกเกี่ยวกับการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่าง ๆ
หุ้นกลุ่มประกัน ร่วง 9.0% แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือน โดยหุ้นพรูเดนเชียล ร่วง 12.4% แม้ระบุว่ามีการทำธุรกิจเพียงเล็กน้อยกับทาง SVB และคาดว่างบดุลบัญชีของบริษัทแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของ SVB